วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

MDQ : Moon Dragon Quest บทที่ 1 เริ่มต้น I

บทที่หนึ่ง: เริ่มต้น

สายฝนกระหน่ำลงมาจากฟากฟ้าอย่างไร้ความปรานี เหล่าผู้คนวิ่งหาที่หลบ ลูกเด็กเล็กแดงร้องไห้จ้าเพราะตกใจเสียงฟ้าที่คำรามเสียงดังราวจะถล่มลงมา ไม่มีใครสนใจร่างผอมซูบในชุดขาดวิ่นกลางถนน มือซีดเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเขย่ากะลาแตกๆไปทางซ้ายทีขวาที ดวงตาซึ่งพร่ามัวด้วยความหิวสอดส่ายหาความเมตตา ผมยุ่งๆกับเสื้อผ้าเก่าโทรมลู่ลงด้วยน้ำหนักน้ำ แม้จะอยู่ในวัยหนุ่มแน่นหากแต่เขากลับไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะอ้าปากพูด ใครคนหนึ่งวิ่งฝ่าสายฝนมาทางเขาและชนเข้าที่ไหล่จังๆจนคนอ่อนแอล้มลงกระแทกถนน...

“เกะกะจริง! จะไปตายที่ไหนก็ไป!” คำขอโทษของเขาช่างบาดหูนัก ชายคนนั้นวิ่งจากไปอย่างหงุดหงิด...ทิ้งให้ร่างหนึ่งนอนกองกับพื้นไม่ต่างจากสุนัขขี้เรื้อน...

“โถๆๆ พ่อหนุ่ม ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะจ๊ะ...” เสียงหวานดังขึ้นเบื้องหน้าหนุ่มขอทาน

นางฟ้า...

คำคำนี้ผุดขึ้นในสมองทันทีที่เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงชัดๆ วงพักตร์งดงามราวเขียนวาด เรือนผมตรงประบ่าสีแดงส้มเป็นเงาใต้โดมเวทใสที่เธอใช้ต่างร่ม ริมฝีปากสีชมพูอิ่มเหยียดแย้มเป็นรอยยิ้ม ชุดคลุมสีดำขับให้ผิวขาวเนียนยิ่งกระจ่างใส ร่างสมส่วนชนิดชายใดเห็นเป็นต้องเหลียวหลังนั่งยองๆ แล้วมองลึกลงไปในดวงตาสีน้ำตาลของคนที่รู้สึกเหมือนโชคหล่นทับซึ่งบัดนี้เป็นประกายวิบวับด้วยความตื่นตา นิ้วชี้เรียวยาวลากไปตามแก้มและคางอย่างยั่วยวน

“อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ไหมล่ะ...”

“อยาก...อยากสิ...” เสียงแหบแห้งเปล่งเป็นคำพูด เด็กสาวเอื้อมมือทั้งสองมาโอบประคองใบหน้าซูบตอบก่อนที่ทั้งคู่จะอันตรธานไปจากโลกแห่งความจริงอันโหดร้าย...

แวบ!

เบื้องหน้าขอทานหนุ่มคือคฤหาสน์หลังงามสูงกว่าห้าชั้น ร่างผอมเดินเลียบสวนหย่อมแบบอังกฤษและสระน้ำพุไปจนถึงประตูหน้าพลางมองซ้ายมองขวาด้วยความตื่นตะลึง หญิงสาวผมแดงมองภาพนั้นราวกับพึงใจ... มือบางคว้าเข้าที่มือซูบดึงตัวเขาเข้าประชิด... ประตูไม้สีดำเปิดออกช้าๆเพียงเธอดีดนิ้ว...

สาวงามพาเขามานั่งลงตรงกลางโต๊ะรับประทานอาหารตัวยาวในห้องรับรองแขกสไตล์อาหรับ ประดาคนรับใช้หญิงร่างสะโอดสะองนับสิบทยอยกันนำถาดเงินพร้อมฝาครอบมาตั้งเรียงกันจนเต็มโต๊ะ พวกเธอเอื้อมมือมายกส่วนฝาออก... โค้งคำนับ... แล้วเดินออกจากห้องไป ไม่ช้า โต๊ะตัวนั้นก็เพียบไปด้วยอาหารเลิศรสนานาชนิดส่งกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายสอ ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินวนไปรอบๆโต๊ะ... สองมือหยิบคว้าอาหารแต่ละอย่างส่งเข้าปากอย่างตะกละตะกราม... สุราหมักชั้นดีไหลย้อยออกมาจากมุมปากขณะที่เขากำลังเสพสุขจากโอชารสเบื้องหน้าราวไม่รู้จักอิ่ม...

เสียงพิณบรรเลงทำให้คนที่ง่วนกับการกินชะงักเหลียวหาที่มา พลัน ม่านสีแดงสดตรงข้ามโต๊ะอาหาร ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่าใช้เพียงกั้นแสงอาทิตย์จากหน้าต่างสูงจรดเพดานก็ค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นกลุ่มนักดนตรีสาวบนยกพื้นปูผ้ากำมะหยี่สีเดียวกัน เครื่องหน้าแสนงดงามขยับพริ้มไปตามจังหวะเพลง... เหล่านางระบำในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยนวยนาดเข้ามาในห้องก่อนจะยักย้ายร่างกายอย่างยั่วยวน หนึ่งในนั้นใช้ผ้าแพรบางเบาคล้องรอบคอเขาเป็นเชิงเชื้อเชิญ คนผมดำเดินตามไปถึงกลางวงอย่างว่าง่าย สะโพกกลมกลึงและเนินนางอวบอิ่มขยับไปมารอบตัวเขา เนื้อสีกับเนื้อชวนให้รู้สึกร้อนเร่า สตรีผมแดงขยับรอยยิ้มน้อยๆแล้วค่อยๆเยื้องย่างมาหา...

“เป็นยังไงบ้าง...มีความสุขไหมจ๊ะ...”

“มีสิ...ขอบคุณท่านมาก...ข้าไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย...” ชายหนุ่มละล่ำละลัก...ร่างบางยิ้มอย่างพอใจก่อนรวบตัวเขาเข้าในอ้อมแขน

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะนะ...” เสียงหวานกระซิบ... ริมฝีปากแดงค่อยๆเลื่อนมาประกบกับริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวล ดวงตาสีน้ำตาลที่เบิกกว้างด้วยความตกใจในตอนแรกแปรเป็นหรี่ลงอย่างกรุ้มกริ่ม... มือหนาเริ่มซุกซนไปตามเรือนร่างนุ่มนิ่มของคนตรงหน้า ลิ้นอุ่นๆที่สอดแทรกเข้ามาในช่องปากของเขาเต็มไปด้วยรสสวาทจนชายหนุ่มต้องรีบตอบสนองเธอในแบบเดียวกัน...

สวรรค์...

นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ...

แต่แล้ว ดวงตาสีน้ำตาลกลับต้องเบิกกว้างอีกครั้งเมื่อลิ้นของหญิงสาวเริ่มซอกซอนเข้าไปลึกขึ้น... ผ่านลิ้นไก่... หลอดลม... ทะลุผนังปอดจนถึงตำแหน่งหัวใจ ขอทานผู้โชคร้ายทำได้เพียงทำเสียงอึกอักในคออย่างทรมาน พลางพยายามปลดตัวเองจากท่อนแขนบางที่โอบรัดเขาไว้แน่นเหมือนงู หัวใจอุ่นๆถูกปลิดจากขั้วคร่าลมหายใจสุดท้ายในชั่ววินาที ลิ้นยาวๆเข้ากระหวัดรัดแล้วค่อยๆดึงมันย้อนออกมาทางปากศพ หญิงสาวเหยียดมองร่างไร้วิญญาณซึ่งบัดนี้อวัยวะภายในป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดีก่อนจะตวัดลิ้นกลืนก้อนเนื้อชุ่มเลือดที่ยังเต้นตุบๆนั้นลงไปทั้งดวง...

“แอบมาทำเรื่องสนุกๆแบบนี้คนเดียว...พี่นี่ขี้โกงชะมัดเลย...” น้ำเสียงเชิงตัดพ้อดังมาจากหน้าประตู คนผมแดงหัวเราะในคอ... มือบางยกขึ้นดีดหนึ่งครั้ง... พลันบรรยากาศในห้องกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ... อาหารบนโต๊ะกลายเป็นกองขี้เถ้า เหล่านักดนตรีและนางระบำแสนสวยค่อยๆซูบผอมเหมือนคนแก่และกลับเป็นโครงกระดูก ห้องรับรองสไตล์อาหรับคืนสภาพเป็นห้องทึบๆมืดสลัว ส่วนคฤหาสน์หรูก็กลับเป็นปราสาทหินสีเทาทรงยุโรปดังเดิม...

“โทษทีๆ...งั้นคราวหน้าพี่จะชวนเธอด้วย ตกลงไหม...” หญิงสาวว่าพลางปาดเลือดที่ปาก

“ว่าแต่ว่า พี่ มีเกร่า คะ...มนุษย์นั่นน่ะ...หนูขอนะ...”

“เอาสิ พี่ยกให้...”

“รักพี่มีเกร่าที่สุดเลย!” เด็กสาวผมสีแดงดำร้องอย่างดีใจ ดวงตาสีเลือดนกเป็นประกายวิบวับขณะที่เจ้าตัวกระโดดโลดเต้นไปนั่งลงข้างศพ...

“ทิสิโฟเน่...พี่อเลคโตล่ะ” มีเกร่าดันตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะแล้วหันมาถามน้อง

“พี่อเลคโตไป ฟูราด กับท่านโอมินอสแล้วก็ท่านมีเดียค่ะ...” ทิสิโฟเน่ตอบพลางกัดเนื้อตรงท่อนแขนผอมๆที่ตัวเธอเพิ่งฉีกมาจากศพเข้าไปคำใหญ่ “รู้สึกจะมีพวกหนูน่ารังเกียจที่ไม่รู้จักเจียมตัวหลงเข้ามาน่ะค่ะ...”

“หนูงั้นเหรอ... น่ารำคาญจริงนะ...” มีเกร่าถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย... ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองน้องสาวซึ่งกำลังลงมือฉีกแขนอีกข้างมาแทะเล่นเป็นของขบเคี้ยวระหว่างวัน...

...

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

บทที่ 1 มาเสิร์ฟแล้วค่า...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น